ใครเคยทราบบ้างว่านิยามที่เข้าเคยพูดกันเรื่องของอาหารนั่นเป็นขุมพลังที่สำคัญมากของสมอง ที่เป็นเรื่องปกติของระบบทางกายภาพที่เห็นอย่างชัดเจนกันอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่วันนี้เองผมขอมาขยายความกันต่อในเรื่องนี้ละกัน ซึ่งก่อนอื่นผมเองขอขยายความเรื่องของสมองกันก่อนที่จะระบุถึงเรื่องของอาหารที่จำเป็นต่อส่วนต่าง ๆ ของสมองนั่นเอง เพราะผู้อ่านทุกท่านคงจะทราบกันดีอยู่แล้วเรื่องการทำงานของระบบสมองนั่นเองแต่เรื่องที่ไม่ค่อยมีผู้อ่านได้ทราบแบบเจาะลึกลงไปอีกนั่นก็คือ สารที่จะสื่อสารต่อสมอง หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่าสารสื่อสมองนั่นเอง เดี่ยววันนี้ผมเองก็จะขอขยายความเกี่ยวกับเรื่องนี้กันให้ทราบแบบชัดเจนนั่นเองครับ
ก่อนอื่นเราก็มาดูตัวสารประกอบตัวแรกกันเลยดีกว่าว่าคืออะไร อะซิทิลโคลีน (Acetylcholine) ถ้าพูดถึงสารตัวนี้ทุกท่านก็คงทราบว่ามันทำหน้าที่ในการกระตุ้นเซลล์ประสาท พร้อมกับดูแลเรื่องของการควบคุมระบบกล้ามเนื้อของทางร่างกายเข้าไปอีกด้วย โดยจะดูแม้กระทั้งการสั่งงานให้ระบบกล้ามเนื้อทำงานอย่างไรตามที่ระบบประสาทมีการสั่งการให้เคลื่อนที่นั่นเอง เพราะระบบสมองของคนเรานั่นก่อนที่จะทำงานได้จำเป็นที่จะต้องให้ระบบประสาทนั่นเรียกภาพจำหรือภาพความทรงจำขึ้นมาก่อนที่จะสั่งการให้ร่างกายทำตามภาพเหล่านั่นเสมอเป็นการเรียกความทรงจำส่วนในออกมาใช้งานนั่นเองเป็นไปตามธรรมชาตินั่นเอง พอเราทราบว่ามันทำงานอย่างไรแล้วก็จะขอพูดถึงอาหารที่เหมาะมากกับการบำรุงสื่อประสาทส่วนนี้โดยตรงที่ชอบมากนั่นก็จะเป็นอาหารจำพวก ไข่แดง ตับ ปลา นม นี้เป็นธาตุหลักที่สมองส่วนนี้จะชอบมากที่สุดนั่นเอง เพราะตามปกติแล้วผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบสื่อประสาทในส่วนนี้ทางการแพทย์เข้ามักจะแนะนำให้ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องทานอาหารในหมวดนี้เป็นจำนวนมาก เพื่อเข้าไปซ้อมแซ่มส่วนที่โดนทำลายไปโดนเร่งด่วนมาก จะทำให้ร่างกายทำการสร้างตัวให้กลับมาในสภาพคงที่โดยเร็วนั่นเอง แต่หากผู้ป่วยท่านใดที่ไม่สามารถจะท่านอาหารเหล่านั่นได้ในกรณ๊ที่ผู้ป่วยมีอาการแพ้อาหารในหมวดนี้แล้ว ทางการแพทย์ก็มักจะแนะนำให้ผู้ป่วยท่านในกลุ่มของพืชผผักทดแทน อาทิเช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บร็อคโคลี จะเป็นกลุ่มที่มีสารที่จำเป็นในการเข้าไปทดแทนส่วนที่ขาดหายไปได้แบบเสมือนจริงนั่นเอง ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นเข้าจะแนะนำให้ทานจากกลุ่มของพืชผักจะดูง่ายกว่ากลุ่มของเนื้อสัตว์นั่นเอง ในบทต่อไปผมก็จะขอขยายความต่อเนื่องกันเลยรอติดตามบทความกันต่อได้เลยนะครับ
